บทเพลงประจำโรงเรียน

บทร้องอโหกุมาร

อโหกุมารสถานสิขาณ เทพศิรินทร์ระบิลระบือ
สำเนียงจำโนษอุโฆษก็คือดรุณสยามมิขามวิชาฯ
สมัญญเลิศจะเกิดไฉนจะเกิด ณ เมื่ออะเคื้อสิขา
จะเกิด ณ คราวอะคร้าววิชาวิปักษะขามสยามวิชัยฯ
วิถีสำรวย บ่ งวย บ่ งงวิถีสำเริงบ่เหลิง ห ทัย
วิถีสำราญ บ่ ซานจะไปวิถี อ บาย บ่ หมายจำนงฯ
วิชาวิบุลย์ดรุณจะเรียนประเกียรติ์จะเกิดประเสริฐประสงค์
ประเทศจะงามสยามจะยงจะสุดวิเศษก็เหตุเพราะเพียรฯ
อโหดรุณจะครุ่นสิขาอโหกุมารจะอ่านจะเขียน
วิชาจะเทียบจะเปรียบวิเชียรวิเชียรก็ชู บ่ สู้วิชาฯ
วิชา ฤ แล้ง ณ แหล่งสยามหทัยะไทยจะไตรจะตรา
หทัยะไทยจะใฝ่วิชาวิชา ฤ แล้ง ณ แหล่งสยาม
ณ เทพศิรินทร์ ณ เทพศิรินทร์สถานสิขาสง่าพระนาม
สำนักกิฬาสง่าสนามณ เทพศิรินทร์ ณ เทพศิรินทร์
ชโย ชโย ชโย







คำแปลบทร้องอโหกุมาร

  1. เด็กชายทั้งหลายซึ่งอยู่ในสถานศึกษาแห่งนี้ ที่เทพศิรินทร์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือเสียง ที่กล่าวขานอย่างกึกก้องนั้นคือ เด็กชายชาวสยามไม่เคยย่อท้อต่อการศึกษาเล่าเรียน
  2. เหตุใดเล่าสมญานามที่ดีงามเช่นนี้จึงเกิดขึ้นได้ เกิดขึ้นได้ก็เพราะความเจริญงอกงามทางการศึกษา เกิดขึ้นได้ก็เพราะได้รับการศึกษาที่น่าภาคภูมิใจ เด็กชายชาวสยามจะเอาชนะคู่แข่งทางการศึกษาได้เสมอ จนเป็นที่น่าเกรงขาม
  3. มิได้ลุ่มหลงกับความโอ่อ่า มิได้มัวเพลินอยู่กับการรื่นเริง มิได้ปรารถนาจะไปสู่หนทางของความสุขสำราญ ไม่เคยหลงผิดที่จะสู่หนทางของความเสื่อม
  4. วิชาความรู้เท่านั้นที่เราใส่ใจ เราจะสร้างเกียรติยศ ชื่อเสียงให้เป็นที่ปรากฏประเทศจะดีงาม มั่นคง และเจริญรุ่งเรืองได้ ก็ด้วยเราพากเพียรในการศึกษา
  5. เด็กๆ จะใฝ่ใจในการศึกษา เราจะเพียรเรียนเขียนอ่าน หากจะนำวิชาความรู้มาเทียบกับเพชร เพชรก็มิอาจเทียบค่าได้กับความรู้
  6. เมื่อรู้คุณค่าของความรู้เช่นนี้แล้ว และเมื่อดวงใจทุกดวงจดจ่อในการศึกษาเช่นนี้แล้ว มีหรือที่วิชาความรู้จะสิ้นสูญไปจากแดนสยาม
  7. ที่นี้เทพศิรินทร์ ที่เทพศิรินทร์แห่งนี้ สถานศึกษาที่เชิดชูพระนามว่า เทพศิรินทร์ให้เป็นที่ยอมรับยิ่งขึ้นสถานศึกษาที่สร้างนักกีฬา ที่องอาจในสนามแข่งขันที่นี้เทพศิรินทร์ ที่เทพศิรินทร์แห่งนี้ ขอจงเจริญรุ่งเรือง… สืบไป





ที่มา:https://www.tsn.ac.th/

ความคิดเห็น